วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553

จากสำนึกสู่ปากกา..ของปัญญา ไกรทัศน์2


      [ 19 ]


บุกรุกหาดทรายทั่วภูเก็ต...ใครรับผิดชอบ? (2)


...พี่น้องชาวภูเก็ตผู้รักแผ่นดินเกิดที่เคารพทุกท่าน

ที่อ่านคอลัมน์ของผมในวันนี้

ผมกำลังจะกล่าวหาว่า

คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กำลังละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้เอกชนและบุคคลผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม แต่ประสงค์จะใช้หาดทรายทำกิน เข้ามาแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ

ปล่อยให้ใครไม่รู้อนุญาต หลับตา หลิ่วตา และขยิบตา
ให้เอกชนเข้าไปตั้งร้านค้า ขายอาหาร ขายเบียร์ ขายสุราบนชายหาด

ไปดูเถอะครับ ริมหาดและบนหาดทรายของหาด ในทอนวันนี้มีร้านอาหารตั้งเรียงราย โดยจะมีอาคารมุงหลังคา ค่อนข้างจะถาวรในลักษณะร้านอาหารทุกหนึ่งร้อยเมตรของชายหาดในทอน มีการตั้งโต๊ะ ตั้งเก้าอี้ เรียงแบบร้านอาหารทั่วไปที่ต้องเสียภาษีอย่างถูกต้องให้กับแผ่นดิน

วันนี้เขาเซ้งกัน 100 เมตรบนชายหาดในทอน 5 ล้านบาทเป็นอัตราขั้นต่ำที่จะต้องจ่ายเงินสดทันทีในฐานะ

คนคุ้นเคย

หากหน้าใหม่อยากจะทำกิน จะต้องจ่ายอย่างต่ำสุด 6 ล้านบาท และขั้นสูงในทำเลที่สวยงามที่มีชาวต่างชาติเดินลงหาดเยอะ เขาเซ้งกัน 100 เมตร 10 ล้านบาท

ห้ามต่อรองราคา

เอาสมบัติของแผ่นดินไปขายได้อย่างไร ?

เอาสมบัติของแผ่นดินไปเซ้งได้อย่างไร ?

ไหนพี่น้องเสื้อเหลืองที่เคยประกาศก้องวันปิดสนามบินนานาชาติจังหวัดภูเก็ตว่ารักชาติ รักในหลวงและรักแผ่นดิน

ลองออกมาแสดงความเคลื่อนไหว เพื่อเรียกร้องสมบัติชาติบนหาดทรายและชายหาดของในทอนคืนมาเพื่อ

ตอบแทนคุณในหลวงซิ

ไหนพี่น้องเสื้อแดงที่วันนี้ประกาศก้องว่า จะเอาสมบัตของชาติคืนมา จะล้างบางสองมาตรฐาน ลองเอาเรื่องนี้ขุดคุ้ยไปปราศรัย ในเวทีคนเสื้อแดงของกรุงเทพมหานครในวันนี้ซิ

ถ้านายแน่ ?

ผมกราบเรียนถามไปยังประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ตว่า

ท่านมัวทำอะไรอยู่ ?

ผมเรียนถามไปยังคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ตว่า

ท่านมัวทำอะไรอยู่ ?

ผมกราบเรียนถามไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตด้วยความเคารพ โดยความเคารพและเพื่อความเคารพว่า

ทำไมท่านไม่มีความกล้าหาญในการรื้อและดำเนินคดีคนที่บุกรุกและคนที่อนุญาตให้บุกรุก

ผมฝากเรียนถามไปยังท่านนายอำเภอถลางในฐานะผู้ดูแลและรับผิดชอบในพื้นที่หาดในทอนว่า

ท่านปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

ท่าน ทราบไหมว่า วันนี้ท่านกำลังละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมายและถือว่านี่คือการละเว้น ที่เป็นความผิดสำเร็จแล้วและอายุความนับหนึ่งไปแล้ว

ผมกราบเรียนถามไปยังผู้บังคับการตำรวจจังหวัดภูเก็ตว่า

ท่านทราบไหมว่ามีการบุกรุกชายหาดและก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างอันเป็น ร้านอาหารอันเป็นสมบัติของชาติและของแผ่นดินที่เราบอกว่าทุกอณูตารางนิ้วเป็นของในหลวง นั่นแหละ

ท่านรักชาติ ท่านรักในหลวงไหม ?

ถ้าท่านรักชาติและรักในหลวง ลองออกจากห้องทำงานของผู้บังคับการตำรวจจังหวัดภูเก็ต พร้อมกับผู้กำกับการในพื้นที่ที่ไม่ค่อยจะใส่ใจในการดำเนินคดีต่อผู้บุกรุกไปจับกุม

กล้าหาญชาญชัยสมกับเกียรติศักดิ์ตำรวจไทยหรือ ไม่ครับ...

กราบเรียนถาม...

ผมเคยไปยืนถ่ายภาพตรงริมหาดในทอนเมื่อสาม ปีก่อน ผมพาแม่ของผมขับรถแวะจอดตรงนี้ เปิดกระจกให้แม่ของผมชื่นชมธรรมชาติที่สวยงาม ร่มไม้ที่แกว่งใบรับการมาเยือนของผม ผมเดินลงไปริมหาดด้วยอารมณ์สดชื่น และก้มตัวนั่งยองๆเพื่อถ่ายภาพต้นผักบุ้งทะเล

วันนี้ไถทิ้งหมดแล้ว

ทำลายสมบัติชาติและสมบัติของแผ่นดินได้ยังไง

ไหนแกนนำคนเสื้อเหลืองที่บอกรักชาติรักแผ่นดินออกมาเคลื่อนไหวซ

ไหนแกนนำคนเสื้อแดงที่บอกรักชาติรักแผ่นดินออกมาเคลื่อนไหวเอาแผ่นดินคืนซิ

ไหนใครบอกว่าไม่มีสองมาตรฐานในการทำงาน ในการมอบความยุติธรรมให้กับประชาชน สิ่งที่ผมเขียน คือสองมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรมขั้นพื้นฐานไหม

ชาวบ้านบุกรุกที่ดินหลวงนิดเดียวเพื่อทำมาหากินเลี้ยงชีพรอดโดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ เพื่อเอาผักที่เก็บมาจากรั้วข้างบ้าน ปลาที่ลงไปจับในทะเลใส่เรือลำเล็กๆ กลับโดนเจ้าหน้าที่เทศกิจจับกุมข้อหาเกะกะ ทำให้เสียบรรยากาศเสียภาพลักษณ์และภาพพจน์

แต่ทำไมไปบุกรุกที่หลวงริมหาดตั้งร้านขายอาหารบนชายหาด ทิ้งกากเศษอาหารก้างปลาบนหาดทราย
ไม่ผิดกฏหมายหรือครับ ?

                       ที่มา 
http://www.siangtai.com/th/news_detail.php?News_ID=8469&Cat_ID=3


วันที่ : 29 มี.ค. 2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น